การจัดการเรียนการสอน โดยใช้จริยศาสตร์ : ดร.พนมพร
กีรติตานนท์
การศึกษาจริยศาสตร์ เป็นการศึกษาที่ช่วยให้พยาบาลมีความไวต่อปัญหาจริยธรรม รู้จักคิดไตร่ตรอง มีทักษะด้านความคิดทำให้มีมุมมองที่กว้างขึ้น รู้และเข้าใจคุณค่าและความเชื่อของตนเองและบุลคลอื่น และช่วยเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมแก่พยาบาลในการปฏิบัติงาน ช่วยในการวิเคราะห์แยกแยะประเด็นปัญหา อันนำไปสู่การวิพากษ์ ตัดสิน อย่างมีหลักการในการแก้ปัญหาของผู้ป่วยแต่ละกรณี อย่างเหมาะสมต่อความเป็นจริง และยังเป็นเหมือนภูมิต้านทานตลอดชีวิต (Long life immunity) ทำให้พยาบาลไม่เกิดความรู้สึกท้อแท้ เบื่อหน่ายเมื่อประสบปัญหา และไม่เกิดภาวะคับข้องใจและบีบคั้นทางอารมณ์ (burnout) สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
หลักจริยธรรมของวิชาชีพพยาบาล (Ethical
principles) มี 6 ประการ ดังนี้
1.การเคารพเอกสิทธิ์/ความเป็นอิสระ (respect for autonomy) หมายถึง การให้ความเคารพในคุณค่า ความเชื่อ และการตัดสินใจของบุคคล ด้วยความตั้งใจและไม่มีอิทธิพลใดมาควบคุม ปราศจากการจูงใจ โน้มน้าวให้เชื่อ หรือกดดันให้ยอมตาม ให้โอกาสตัดสินใจอย่างอิสระ ทำตามความต้องการของตนเอง เพื่อประโยชน์สูงสุดโดยไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน หรือเป็นอันตราย มีความเท่าเทียม ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ดังนั้นพยาบาล ควรเคารพความเป็นอิสระในการตัดสินใจของผู้ป่วยและผู้รับบริการหลักจริยธรรมข้อนี้ นำไปสู่การให้การยินยอมเมื่อได้รับการบอกกล่าว (informed consent) กล่าวคือ
การส่งเสริมพฤติกรรมของนักศึกษาที่แสดงถึงการให้อิสระ
ให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ เคารพ
การตัดสินใจของผู้ป่วย
เช่น
- แนะนำตัวก่อนให้การพยาบาล
-
ขออนุญาตผู้ป่วยและให้คำอธิบายก่อนทำกิจกรรมการพยาบาล
ไม่ว่าผู้ป่วยจะรู้สึกตัวหรือไม่
- ให้ข้อมูลที่เพียงพอ
เป็นจริงก่อนให้ผู้ป่วยตัดสินใจยอมรับ/ปฏิเสธการรักษา
อาจารย์สามารถเลือกสถานการณ์ที่สะท้อนถึง โอกาสที่ผู้ป่วยถูกละเมิดเอกสิทธิ์
เพื่อให้นักศึกษาร่วมกันวิเคราะห์ประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรม
และฝึกการตัดสินใจเชิงจริยธรรม เช่น ผู้ป่วย/ครอบครัวต้องการปฏิเสธการรักษา การใส่ท่อช่วยหายใจ
ครอบครัวผู้ป่วยมีความเห็นที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการหรือไม่
2. การทำประโยชน์ (Beneficence) หมายถึง การทำสิ่งที่ดีและมีประโยชน์เอื้ออาทรแก่เพื่อนมนุษย์ โดยมีหลักการการทำประโยชน์ ดังนี้
2.1
การส่งเสริมการทำสิ่งที่ดี เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับบริการ ได้แก่
การให้ทางเลือกในการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยมะเร็ง
2.2 การป้องกันอันตราย
ไม่ให้เกิดแก่ผู้ป่วย เช่น ให้ยานอนหลับตามแผนการรักษาแล้วยกไม้กั้นเตียงขึ้น การแนะนำการปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัด
2.3
การนำสิ่งที่เป็นอันตรายออกไป เป็นส่งสำคัญมากกว่าการส่งเสริมสิ่งดี เช่น การทำความสะอาดแผล เช่าน การป้องกันการติดเชื้อ
3. การไม่ทำอันตราย (Non
maleficence) การกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุ หรือ
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นเป็นการให้การพยาบาลด้วยความละเอียด รอบคอบและดูแลปกป้องผู้ป่วยไม่ให้เกิดอันตรายโดยเฉพาะผู้ป่วยเด็ก
ผู้ที่มีปัญหาทางจิต ผู้ป่วยไม่ รู้สึกตัว ฯลฯ
4. ความซื่อสัตย์ (fidelity /
confidentiality) เป็นการกระทำด้วยความซื่อสัตย์ตามพันธะสัญญาของวิชาชีพซึ่งต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น
ซื่อสัตย์และรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ไม่ทอดทิ้งผู้ป่วยการและ
มีการรักษาความลับของผู้ป่วยที่เป็นข้อตกลง สัญญา
และพันธะหน้าที่ที่บุคคลหนึ่งทำกับอีกบุคคลหนึ่ง เป็นการเก็บข้อมูลที่เป็นอันตรายหรือน่าอับอายของผู้ป่วยเป็นความลับ
โดยข้อมูลของผู้ป่วยจะนำไปเปิดเผยได้เฉพาะกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเท่านั้น
5. ความยุติธรรม (Justice) การกระทำต่อผู้ป่วยและครอบครัวด้วยความยุติธรรม ให้การพยาบาลทุกคนเท่าเทียมกันไม่เลือกชนชั้น
เชื้อชาติศาสนา ให้การดูแลผู้ป่วยโดยไม่เลือกปฏิบัติ คำนึงถึงความต้องการของบุคคล โดยส่งเสริมพฤติกรรมของนักศึกษาที่แสดงถึงการดูแล
ผู้ป่วยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช้ คำพูด กิริยาท่าทาง
หรือการกระทำที่แสดงความรังเกียจ หรือมีเจตคติทางลบต่อผู้ป่วยบางกลุ่ม
6. การบอกความจริง (Veracity / Truth Telling) การบอกความจริงเป็นให้ข้อมูลที่เป็นจริงแก่ผู้ป่วย อธิบายการวินิจฉัย การรักษา และการพยากรณ์โรคให้ผู้ป่วยเข้าใจ ผู้ป่วยต้องได้รับความจริงที่เกี่ยวข้องกับตน ไม่หลอกลวงหรือโน้มน้าวให้ใช้บริการเกินจำเป็น โดยไม่คำนึงถึงความพร้อมและความต้องการของผู้ป่วย โดยส่งเสริมพฤติกรรมของนักศึกษาในการสื่อสารที่เป็นจริง ทั้งคำพูด การเขียน เช่น บันทึกข้อมูลจริงที่ได้จากการกระทำจริง กล้าสารภาพเมื่อกระทำผิด เช่น
- การบอกความจริงที่เป็นข่าวร้าย
มักก่อให้เกิดประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรมแก่ทีมสุขภาพว่าควรตัดสินใจบอกความจริงที่เป็นข่าวร้ายหรือไม่
และควรบอกอย่างไร ไม่ให้เกิดผล
เสียอย่างรุนแรงต่อผู้ป่วย
หรือให้เกิดผลเสียน้อยที่สุด
1. การพิทักษ์สิทธิหรือการทำหน้าที่แทน
(Advocacy)
หมายถึง การที่บุคคลกระทำเพื่อปกป้องผู้อื่น
หรือช่วยให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ดังนั้นในการทำหน้าที่แทนผู้ป่วยพยาบาลจะต้องช่วยผู้ป่วย พิทักษ์สิทธิของผู้ป่วย และเป็นตัวแทนของผู้ป่วย (surrogates)
ในการตัดสินใจ
และลงมือ กระทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย
2. ความรับผิดชอบ
(Accountability/Responsibility)
หมายถึง
การที่พยาบาลมีความรับผิดชอบในการดูแลผู้ป่วยตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด (legal
accountability) และมีความรับผิดชอบทางจริยธรรม (moral
accountability) ซึ่งความรับผิดชอบเหล่านี้ครอบคลุมถึงการส่งเสริมสุขภาพ
การป้องกันความเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ และการบรรเทาความทุกข์ทรมาน
นอกเหนือจากความรับผิดชอบที่มีต่อผู้ป่วยหรือประชาชนแล้ว
พยาบาลยังต้องมีความรับผิดชอบต่อวิชาชีพ ต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อตนเอง และต่อสังคม
ตามที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณวิชาชีพด้วย
3. ความร่วมมือ/สัมพันธภาพ
(Cooperation/Relationships)
เป็นการมีส่วนร่วมระหว่างบุคลากรในทีมสุขภาพ เพื่อให้ การดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพ แนวคิดทางจริยธรรมนี้เชื่อว่าความร่วมมือจะส่งเสริมการสร้าง เครือข่ายที่จะให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ความร่วมมือยังเป็นแนวคิด ของการเสียสละ เพราะเป็นการแสดงถึงความผูกพันของมนุษย์ที่เกิดดจากการทำงานและใช้เวลา ร่วมกับผู้อื่น
บทบาทของพยาบาลจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการดูแลที่เอื้อ
อาทร ซึ่งหมายถึง
การที่พยาบาลมีหน้าที่ที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์รวมทั้งการดูแลให้
ผู้ป่วยมีภาวะสุขภาพที่ดีแนวคิดจริยธรรมนี้มีคุณค่าต่อสัมพันธภาพระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย
และ สอดคล้องกับหลักจริยธรรมด้านการทำประโยชน์และการเคารพเอกสิทธิ์ /
ความเป็นอิสระ
ดังนั้นอาจารย์ควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมพฤติกรรมจริยธรรมของนักศึกษาในประเด็น
ทั่วๆไป
โดยมีวิธีการส่งเสริมพฤติกรรมจริยธรรม ดังต่อไปนี้
1.
อาจารย์แสดงแบบอย่างทางจริยธรรมในการดูแล ผู้ป่วยที่สอดคล้องกับหลักจริยธรรม
จรรยาบรรณวิชาชีพ และสิทธิของผู้ป่วย
2. การเยี่ยมตรวจทางจริยธรรม
(ethics rounds) โดยเลือกสถานการณ์ที่อาจเสี่ยงต่อการกระทำผิดจริยธรรม
และชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมที่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมคืออะไร
3.
สร้างบรรยากาศจริยธรรมในการเรียนการสอน เช่น ไม่แสดงอารมณ์ทางลบเมื่อนักศึกษาทำผิด
หรือสารภาพผิดให้เกียรตินักศึกษา
ไม่ใช้กิริยาวาจาและท่าทางที่ไม่เหมาะสมกับนักศึกษา
4. เน้นย้ำให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของจริยธรรม
ในการปฏิบัติการพยาบาล
ในการฝึกวิชา
ภาคปฏิบัติ นักศึกษามักปฏิบัติเลียนแบบอย่างจากรุ่นพี่ โดยไม่รู้สึกว่าการปฏิบัติการพยาบาลของตัวเอง
อาจละเมิดสิทธิผู้ป่วย เช่น การถ่ายรูปแฟ้มประวัติผู้ป่วย การเปิดเผยผู้ป่วย
-
ควรมีสถานการณ์ผู้ป่วยกรณีศึกษาที่มีหลากหลายประเด็น
ให้นักศึกษาได้ฝึกวิเคราะห์และตัดสินใจแก้ปัญหา
- ควรให้นักศึกษาฝึกคิดวิเคราะห์บ่อยๆ
ถึงสถานการณ์ที่มีความลำบากในการตัดสินใจ การตีความคุณค่าความเชื่อของตนเอง ผู้ป่วย
และญาติ พยาบาลจะตัดสินใจในการดูแลผู้ป่วยอย่างไร
- ครูผู้สอนภาคปฏิบัติควรเน้นให้นักศึกษาตระหนักถึงคุณธรรม
จริยธรรมในการดูแลผู้ป่วยที่ควรให้การดูแลที่เหมาะสม
ในรายวิชา
จริยศาสตร์และกฎหมายวิชาชีพการพยาบาล
วัตถุประสงค์รายวิชา
ได้แก่
PLO 1 มีความรู้ในศาสตร์ทางการพยาบาล
การผดุงครรภ์ และศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และสามารถประยุกต์ได้อย่างเหมาะสม
PLO 4 คิดอย่างเป็นระบบ
คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ ตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
PLO 8 มีคุณธรรม
จริยธรรม เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีความรับผิดชอบ
PLO 9 สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง และสนใจใฝ่รู้ในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
- การวางแผน ประชุมออกแบบการจัดการเรียนการสอนในกลุ่มวิชา
โดยออกแบบให้มีการยกกรณีตัวอย่างกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการคิด
โดยการตอบคำถามในชั้นเรียน
- การแบ่งกลุ่มทำใบงาน
อภิปรายกรณีตัวอย่าง การสะท้อนคิดจากกรณีตัวอย่าง หรือวิดีทัศน์
ในการตัดสินใจปัญหาจริยธรรม
- ประเด็นคำถาม ได้แก่
(1) จากกรณีศึกษา
นักศึกษารู้สึกอย่างไรต่อการกระทำของพยาบาลจบใหม่รายนี้
(2)
หากเป็นตัวนักศึกษาเองที่พบสถานการณ์เดียวกับกรณีศึกษา นักศึกษาจะทำอย่างไร
(3)
จากสถานการณ์ตัวอย่างเกี่ยวข้องกับหลักจริยธรรมทางการพยาบาล จรรยาบรรณวิชาชีพ
สิทธิผู้ป่วย สิทธิพยาบาลในเรื่องใดบ้าง เพราะอะไร
(4) จากกรณีศึกษา นักศึกษาจะพัฒนาวิชาชีพการพยาบาลอย่างไร
(5) นักศึกษาได้เรียนรู้อะไรจากการวิเคราะห์กรณีศึกษา
และจะนำไปใช้ต่ออย่างไร
ผลการประเมิน
CLO 3.2 นักศึกษาสามารถคิดอย่างเป็นระบบ
คิดอย่างมีวิจารณญาณ มีค่าเฉลี่ยที่ 4.24 SD 0.45
CLO 4.4 นักศึกษาสามารถแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาวิชาชีพและสังคม
มีค่าเฉลี่ยที่ 4.17 SD 0.42
ปัญหาและอุปสรรค
นักศึกษายังไม่เข้าใจหลักจริยศาสตร์เท่าที่ควร
ส่งผลให้วิเคราะห์ประเด็นปัญหาจริยธรรมจากกรณีตัวอย่างผู้ป่วยจริงไม่ตรงประเด็น
แต่ระบุมาตามทฤษฎีทั้งหมดตามตำรา
- ควรส่งเสริมให้นักศึกษาตระหนักรู้และกล้ายอมรับในการปฏิบัติการพยาบาลของตนเอง
เพื่อช่วยให้การช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างปลอดภัย
-
สอนเน้นให้นักศึกษามีความเข้าใจที่ถูกต้อง ในหลักแนวคิด องค์ประกอบของจริยธรรม
จัดกิจกรรมกระตุ้นช่วยให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้
- การพัฒนา
สร้างคู่มือสำหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอน
ซึ่งจะช่วยทั้งพัฒนาอาจารย์ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักจริยศาสตร์
ที่เป็นบุคคลสำคัญที่จะช่วยให้นักศึกษามีความเข้าใจมากขึ้น
- ควรมีแผนการสอนที่ชัดเจนของรายวิชา
เพื่อเป็นแนวทางในจัดกิจกรรมการสอน โดยใช้หลักจริยศาสตร์
พัฒนานักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ครูผู้สอนอาจกระตุ้นให้นักศึกษาเล่าบรรยายสถานการณ์ที่ได้พบเห็นมา
และมาวิเคราะห์ถึงประเด็นจริยธรรมที่สำคัญร่วมกัน
ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษามีความเข้าใจอย่างเป็นรูปธรรมถึงหลักจริยธรรมและประเด็นปัญหาจากสถานการณ์จริงมากขึ้น
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักจริยศาสตร์
วิชา ปฏิบัติการบริหารการพยาบาล: ดร.พนมพร
กีรติตานนท์
นักศึกษาสามารถใช้ดุลยพินิจในการจัดการประเด็นปัญหาทางจริยธรรมในการบริหารการพยาบาลได้ (CLO 1)
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
1)
มอบหมายงานให้นักศึกษา ค้นหาความเสี่ยงในการปฏิบัติการพยาบาล เช่น การบริหารจัดการที่ไม่เหมาะสม
อาจทำให้เกิดการบริการทางการพยาบาลที่ผิดพลาดและขาดมาตรฐานการปฏิบัติที่ถูกต้อง
การเคารพสิทธิผู้ป่วยที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วยและญาติ
2)
จัดกิจกรรมให้นักศึกษาค้นหาความเสี่ยง (risk profile) ในการปฏิบัติการพยาบาล
เช่น การบริหารอัตรากำลัง หรือปัญหาการเคารพสิทธิผู้ป่วย
โดยการจัดการความเสี่ยงทางคลินิก การตัดสินใจแทนของบุคคลในครอบครัว
หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
การวิเคราะห์ความเสี่ยงทางจริยธรรมในแต่ละกรณีว่าในละรายนั้นต้องคำนึงถึงเรื่องใด
3)
การนำผลการวิจัยทางการพยาบาลมาใช้ในการวิเคราะห์กระบวนการตัดสินใจเชิงจริยธรรม
หรือ
Swiss
Cheese Model เพื่อการป้องกันความเสี่ยง ๕ ขั้นตอน ดังนี้
(2) การกำหนดขนาดประเด็นขัดแย้ง
(3)
การพิจารณาทางเลือกในการปฏิบัติ
(4)
การวิเคราะห์ผลดีผลเสียที่จะเกิดตามมาในแต่ละแนวทางที่จะปฏิบัติ
(5)
การตัดสินใจเลือกและลงมือปฏิบัติ
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
- อาจารย์ผู้สอนควรอ่านผลงานวิจัยเพิ่มขึ้น
เพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติไปสู่การปฏิบัติ
- การมีแนวคำถาม
กระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์
อภิปรายรายกลุ่มสถานการณ์ปัญหาเกี่ยวกับประเด็นจริยธรรม
ที่ควรให้เวลานักศึกษาพอสมควรในการคิดวิเคราะห์
และมีแนวทางในการช่วยนักศึกษาวิเคราะห์
- อาจใช้วิธีการสังเกต
สะท้อนคิด (reflection) ในขณะทำกิจกรรมกลุ่มวิเคราะห์ประเด็นปัญหาจริยธรรม
- ครูผู้สอน
หรืออาจารย์ประจำกลุ่มต้องมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักจริยศาสตร์
รวมถึงประสบการณ์ในการวิเคราะห์จัดการประเด็นปัญหาจริยธรรม
เพื่อช่วยให้ข้อคิดให้นักศึกษาเข้าใจประเด็นปัญหาจริยธรรมมากยิ่งขึ้น
- ครูผู้สอนเป็นตัวอย่างในการคิดวิเคราะห์
ตัดสินใจ และช่วยกนะตุ้นให้นักศึกษาได้คิดวิเคราะห์
และควรระมัดระวังในกลุ่มผู้ป่วยเปราะบาง เช่น มารดาที่เป็นผู้ป่วยจิตเวช
ที่ควรได้รับการดูแลที่เท่าเทียมกัน
- การเน้นย้ำประเด็นการรักษาความลับ
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช ความแตกต่างในแต่ละบุคคล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น