วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี
ถอดบทเรียนจากการประชุมเวทีสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
แนวปฏิบัติที่ดี เรื่อง การเตรียมเพื่อการเผยแพร่ผลงานวิจัย
……………………………………
ที่มาของแนวปฏิบัติที่ดี    จากการประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการเตรียมเพื่อการนำเสนอผลงานวิจัย ปีการศึกษา 2553-2554 มีการนำเสนอประสบการณ์จากผู้รู้ ผู้ที่มีประสบการณ์เรื่องการเผยแพร่ผลงานวิจัย มีการสรุปความรู้ และนำความรู้ที่ได้จากการประชุมไปใช้ แล้วนำประสบการณ์จากการนำความรู้ไปใช้กลับมาเล่าในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาต่อที่ประชุมเป็นระยะๆ จากผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้พบว่าสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการเตรียมเพื่อการเผยแพร่ผลงานวิจัยได้สะดวก รวดเร็วขึ้น ต่อยอดการทำงานได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากความไม่รู้ และได้รับการตอบรับให้ลงตีพิมพ์บทความในวารสารได้เร็วขึ้น ผู้วิจัยมีความสุขในการทำงานมากขึ้น จึงสรุปถอดบทเรียนความรู้จากเวทีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นแนวปฏิบัติที่ดีได้ ดังนี้
ความหมายและขอบเขต  การเตรียมเพื่อการเผยแพร่ผลงานวิจัย หมายถึง การเตรียมตัวหรือเตรียมความพร้อมเพื่อการเผยแพร่ผลงานวิจัย ในที่นี้แบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ 1) การนำเสนอผลงานวิจัยในการประชุมเวทีวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ  2) โปสเตอร์แสดงผลงานวิจัยในการประชุมเวทีวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ  3) การตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ
วิธีการดำเนินการ
          1.การนำเสนอผลงานวิจัยในการประชุมเวทีวิชาการระดับชาติและนานาชาติ
   1.1 สมัครไปนำเสนอผลงานวิจัย  โดยส่งบทคัดย่องานวิจัยไปประกอบการพิจารณาด้วย  หาข้อมูลได้จากกลุ่มภารกิจด้านวิจัย การประชาสัมพันธ์ข้อมูลทางเอกสาร จดหมายราชการ หรือทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์
   1.2 ติดตามผลการแจ้งตอบรับให้ไปนำเสนอผลงานวิจัย และรายละเอียดข้อมูลประกอบการนำเสนอ เช่น วันเวลาให้ไปนำเสนอ สถานที่ ภาษาที่ใช้ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อผู้รับผิดชอบ เป็นต้น
   1.3 ทำเรื่องขออนุมัติการไปนำเสนอผลงานวิจัยตามระเบียบราชการ เมื่อได้รับการตอบรับแล้วให้นำหลักฐานการตอบรับมาทำเรื่องขออนุมัติการเดินทางและงบประมาณค่าใช้จ่าย ค่าลงทะเบียน
   1.4 ลงทะเบียนสมัครไปนำเสนอผลงานวิจัย เมื่อได้รับการอนุมัติตามข้อ 1.3 แล้วจึงสมัครลงทะเบียนไปนำเสนอผลงานวิจัย เนื่องจากต้องขออนุมัติการเบิกค่าใช้จ่ายตามระเบียบราชการก่อน
   1.5 เตรียมต้นฉบับผลงานวิจัย หรือ Proceeding และสื่อpower point ประกอบการนำเสนอ ซึ่งสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าระหว่างรอการตอบรับเพื่อให้มีเวลาดำเนินการ และต้องตรวจสอบความถูกต้องให้มากที่สุดเพราะเมื่อส่งไปแล้วจะแก้ไขไม่ได้ โดยเฉพาะในเรื่องความถูกต้องของการสะกดคำ การใช้ format ตามรูปแบบที่ผู้จัดกำหนด ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ควรแปลโดยมืออาชีพ (มีผู้รับจ้างแปล ประมาณหน้าละ 500 บาท หรืออาจคิดเป็นห้าพันคำ/หกพันคำ ควรจ้างแบบรวมค่าทำสื่อสไลด์ประกอบการนำเสนอพร้อมกัน)
  1.6 เตรียมสื่อสไลด์นำเสนอ ควรเตรียมให้สอดคล้องกับเวทีที่สมัครไปนำเสนอ ขนาดห้องประชุม จำนวนผู้ฟัง ภาษา และกำหนดเวลา บนสไลด์ควรมีโลโกของวิทยาลัยเพื่อให้เป็นมาตรฐาน ตัวอักษรควรมีขนาดที่ชัดเจน  มีสีสันดึงดูดความสนใจและดูสบายตา มีตัวเลขสถิติ รูปภาพ รูปกราฟ หรือแผนภูมิประกอบเพื่อให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ  อาจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความถูกต้องของภาษาและเนื้อหาก่อนไปนำเสนอ ซึ่งต้องมีเวลาและค่าใช้จ่ายให้ผู้เชี่ยวชาญด้วย จึงต้องวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ทำวิจัย  ถ้าเป็นวีดีทัศน์ควรตรวจสอบเสียงและบริหารความเสี่ยงในเรื่องระบบการเปิดที่เวทีนำเสนอ และควรซ้อมวิธีการเปิดให้คล่องก่อนเดินทาง และมีไฟล์สำรองแยกไปด้วย ภาพประกอบควรให้มีชีวิตชีวาเป็นภาพเคลื่อนไหวจะดีกว่า แต่จะเปิดได้ยากกว่า
  1.7 เตรียมฝึกซ้อมการพูด โดยเฉพาะถ้าเป็นเวทีนานาชาติ แต่ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลมากเพราะผู้ฟังจะเข้าใจในความแตกต่างด้านเชื้อชาติภาษา
  1.8 เตรียมความพร้อมส่วนบุคคล ในเรื่องการเดินทาง การจองที่พัก เสื้อผ้าการแต่งกาย แผนที่ ยารักษาโรค ของใช้ส่วนตัว กล้องถ่ายรูป การนัดหมาย  และอื่นๆตามความจำเป็น
              2. การนำเสนอโปสเตอร์ผลงานวิจัยในการประชุมเวทีวิชาการระดับชาติและนานาชาติ
       2.1 สมัครไปนำเสนอผลงานวิจัย  โดยส่งบทคัดย่องานวิจัยไปประกอบการพิจารณาด้วย  หาข้อมูลได้จากกลุ่มภารกิจด้านวิจัย การประชาสัมพันธ์ข้อมูลทางเอกสาร จดหมายราชการ หรือทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์
       2.2 ติดตามผลการแจ้งตอบรับให้ไปนำเสนอผลงานวิจัย และรายละเอียดข้อมูลประกอบการนำเสนอ เช่น วันเวลาให้ไปนำเสนอ สถานที่ ขนาดของโปสเตอร์ ประเภทของโปสเตอร์เป็นชนิดติดผนัง หรือ ชนิดแขวนซึ่งต้องเตรียมทำไปให้ถูกต้องตรงตามที่กำหนดมิฉะนั้นจะหาที่ติดแสดงโปสเตอร์ไม่ได้ ภาษาที่ใช้ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อผู้รับผิดชอบ เป็นต้น
       2.3 ทำเรื่องขออนุมัติการไปนำเสนอผลงานวิจัยตามระเบียบราชการ เมื่อได้รับการตอบรับแล้วให้นำหลักฐานการตอบรับมาทำเรื่องขออนุมัติการเดินทางและงบประมาณค่าใช้จ่าย ค่าลงทะเบียน
       2.4 ลงทะเบียนสมัครไปนำเสนอผลงานวิจัย เมื่อได้รับการอนุมัติตามข้อ 2.3 แล้วจึงสมัครลงทะเบียนไปนำเสนอผลงานวิจัย เนื่องจากต้องขออนุมัติการเบิกค่าใช้จ่ายตามระเบียบราชการก่อน
       2.5 เตรียมต้นฉบับผลงานวิจัย หรือ Proceeding และสื่อpower point ประกอบการนำเสนอ ซึ่งสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าระหว่างรอการตอบรับเพื่อให้มีเวลาดำเนินการ และต้องตรวจสอบความถูกต้องให้มากที่สุดเพราะเมื่อส่งไปแล้วจะแก้ไขไม่ได้ โดยเฉพาะในเรื่องความถูกต้องของการสะกดคำ การใช้ format ตามรูปแบบที่ผู้จัดกำหนด ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ควรแปลโดยมืออาชีพ
      2.6 เตรียมโปสเตอร์ที่จะไปนำเสนอ รูปแบบของโปสเตอร์ที่เตรียมไปนำเสนอ ต้องมีขนาด(กว้างxยาวxสูง) และรูปแบบ ตรงตามที่ผู้จัดกำหนด มิฉะนั้นจะติดแสดงไม่ได้ และต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับติดตั้งไปให้พร้อมด้วย รวมทั้งออกแบบให้สะดวกในการเดินทางโดยเฉพาะทางเครื่องบินและวัสดุไม่ยับงาย
          การออกแบบโปสเตอร์ควรให้มีสีสันดึงดูดความสนใจและดูสบายตา ขนาดตัวอักษรเห็นชัดเจน  เนื้อหาข้อมูลควรแยกข้อมูลเป็นกลุ่มหรือบล็อกให้ชัดเจน และมีตัวเลขสถิติ รูปภาพ รูปกราฟ หรือแผนภูมิประกอบเพื่อให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ มีโลโกของวิทยาลัยและชื่อที่อยู่ให้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้  การออกแบบโปสเตอร์นี้อาจให้ช่างทำโปสเตอร์ช่วยออกแบบให้โดยเจ้าของงานวิจัยต้องเตรียมข้อมูลเนื้อหาทั้งหมดใส่ไฟล์ไปให้ในรูปของ power point ควรตรวจสอบภาษาและการสะกดคำให้ถูกต้อง และต้องพูดคุยกับช่างทำโปสเตอร์ให้เข้าใจ ให้เวลาทำและนัดหมายกำหนดส่งมอบงานให้ชัดเจน และมีค่าใช้จ่าย(ประมาณตารางเมตรละประมาณ 400 บาทขึ้นไป)
     2.7 เตรียมฝึกซ้อมการพูด โดยเฉพาะถ้าเป็นเวทีนานาชาติ ถ้ามีผู้ชมโปสเตอร์สอบถามข้อมูล
    2.8 เตรียมความพร้อมส่วนบุคคล ในเรื่องการเดินทาง การจองที่พัก เสื้อผ้าการแต่งกาย แผนที่ ยารักษาโรค ของใช้ส่วนตัว กล้องถ่ายรูป การนัดหมาย  และอื่นๆตามความจำเป็น
         

          3. การตีพิมพ์บทความในวารสารวิชาการระดับชาติ และนานาชาติ
    3.1 วางแผนเตรียมการเรื่องการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสาร
           ควรวางแผนเรื่องการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยไว้ล่วงหน้าตั้งแต่การทำโครงร่างงานวิจัยขอทุนเนื่องจากต้องใช้งบประมาณในการลงตีพิมพ์ บางวารสารต้องสมัครเป็นสมาชิกติดต่อกัน 2-3 ปีจึงจะได้รับการพิจารณารับตีพิมพ์ และต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวารสารที่สนใจว่าสอดคล้องกับปัญหาการวิจัยหรือไม่ วารสารที่จะเลือกตีพิมพ์ควรเป็นวารสารที่ได้รับการรับรองในระดับชาติ และมีค่าคะแนน Impact facter สูงๆ หรือได้รับการรับรองจากสมศ.ตามเกณฑ์ประเมินคุณภาพการศึกษา (สามารถหาข้อมูลรายชื่อวารสารและรายละเอียดข้อกำหนดได้ที่กลุ่มงานวิจัยหรือสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซด์ของวารสารได้)
              3.2 เตรียมต้นฉบับบทความวิจัยที่จะตีพิมพ์เผยแพร่
                 ควรกำหนดกรอบหรือโครงเรื่อง(แผนที่การเขียนบทความ)ไว้ก่อนว่าต้องการหัวข้อเรื่องอะไรบ้าง และขอบเขตของเนื้อหาแต่ละหัวข้อเรื่อง ความยาวของแต่ละหัวข้อมากน้อยเท่าไร รวมทั้งหมดไม่เกินกี่หน้า (โดยประมาณ 15-25 หน้า) ตามที่บรรณาธิการวารสารกำหนดแบบฟอร์มไว้ ถ้าไม่ดำเนินการตามนั้นอาจจะไม่ได้รับการพิจารณารับตีพิมพ์ มีข้อเสนอแนะจากผู้มีประสบการณ์ว่าถ้าได้อ่านบทความวิจัยในวารสารที่จะลงตีพิมพ์เป็นตัวอย่างก่อน จะช่วยให้เกิดความเข้าใจและเตรียมต้นฉบับได้ง่ายขึ้น
               จากนั้นจึงลงมือเขียนบทความวิจัยตามกรอบหัวข้อเรื่องและความยาวที่วางแผนไว้ โดยเขียนขึ้นใหม่ให้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันทั้งเรื่อง และเน้นความสำคัญที่ต้องการเสนอให้ผู้อ่านทราบ ไม่ใช่การย่อวิจัยเล่มใหญ่มาทุกหัวข้อแบบสั้นๆ การอ้างอิงต้องให้ถูกต้องตามระบบที่วารสารกำหนด ควรเก็บเอกสารต้นฉบับและเอกสารอ้างอิงไว้ก่อนโดยคั่นหน้าไว้หรือใส่ดัชนีไว้ให้ชัดเจนถ้ามีการแก้ไขจะได้ทำได้ง่ายและรวดเร็ว การพิมพ์แก้ไขควรบันทึกในไฟล์ใหม่ไม่ควรบันทึกซ้อนไฟล์เดิม เพราะบางครั้งอาจต้องแก้ไขกลับมาใช้แบบเดิม
             3.3 ตรวจสอบความถูกต้องเชื่อมโยงของเนื้อหา การสะกดคำ ระเบียบวิธีวิจัย การเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรมตามระบบที่วารสารกำหนด แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง
              3.4 ส่งบทความไปให้บรรณาธิการวารสารพิจารณารับตีพิมพ์ ควรติดตามผลกับบรรณาธิการเป็นระยะๆ ถ้ามีการแก้ไขบรรณาธิการจะส่งต้นฉบับกลับมา ผู้เขียนควรทำความเข้าใจและรีบดำเนินการแก้ไข เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้จะขาดความต่อเนื่องและหลงลืมประเด็นได้ ถ้ามีข้อสงสัยควรติดต่อกลับไปถามหรือเจรจาต่อรองกับบรรณาธิการให้เข้าใจตรงกัน
             3.5 แก้ไขและส่งต้นฉบับบทความกลับไปให้บรรณาธิการเพื่อการตีพิมพ์ใหม่ แล้วติดตามเป็นระยะเช่นเดียวกับข้อ 3.4 ข้อสำคัญคือต้องจดจ่อ ไม่ย่อท้อ ให้กำลังใจตนเองจนกว่าจะได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ


ปัจจัยแห่งความสำเร็จ สรุปความคิดเห็นจากเวทีประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ดังนี้
 1. จากการจัดการความรู้เรื่องการเผยแพร่ผลงานวิจัย และการนำไปปฏิบัติจริง ผู้ที่มีประสบการณ์ยินดีเล่าสู่กันฟัง เมื่อมีผู้นำไปปฏิบัติแล้วจัดให้มีการนำประสบการณ์กลับมาเล่าในเวทีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทำให้ได้ข้อมูลความรู้และข้อเสนอแนะเพิ่มขึ้น สรุปเป็นแนวปฏิบัติที่ดีเรื่องการเผยแพร่ผลงานวิจัย
 2. วิทยาลัยมีระบบสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัยที่ดีจากผู้บริหารและกลุ่มภารกิจด้านการวิจัย ทั้งในด้านงบประมาณ ข้อมูลความรู้ ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการติดต่อประสาน งาน มีการให้รางวัลสนับสนุนเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้วิจัยเผยแพร่ผลงานวิจัยต่อไป
 3. ผู้ทำวิจัยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินการให้สำเร็จ



                                                                                             สรุปโดยนางสาวบุบผา ดำรงกิตติกุล
                                                                                                           งานจัดการความรู้
                                                                                            วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี
                                                                                                           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น