วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี
ถอดบทเรียนจากการประชุมเวทีสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
แนวปฏิบัติที่ดี เรื่อง การเผยแพร่ผลงานวิจัยระดับนานาชาติ
.............................................
ที่มาของแนวทางปฏิบัติที่ดี จากการประชุมเวทีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการเตรียมเพื่อการนำเสนอผลงานวิจัย
ปีการศึกษา 2554 มีการนำเสนอประสบการณ์จากผู้รู้ ผู้ที่มีประสบการณ์ เรื่องการเผยแพร่ผลงานวิจัย
มีการสรุปความรู้และนำความรู้ที่ได้จากการประชุมไปใช้ แล้วนำประสบการณ์จากการนำความรู้ไปใช้กลับมาเล่าในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนา ต่อที่ประชุมเป็นระยะๆ
จากผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้พบว่า สามารถนำความรู้ที่ได้ในการเตรียม เพื่อการเผยแพร่ผลงานวิจัยได้สะดวก
รวดเร็วขึ้น ต่อยอดการทำงานได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากความไม่รู้ และได้รับการตอบรับให้ลงตีพิมพ์บทความในวารสารได้รวดเร็วขึ้น
ผู้วิจัยมีความสุขในการทำงานมากขึ้น
จึงสรุปถอดบทเรียนความรู้จากเวทีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นแนวปฏิบัติที่ดีได้ ดังนี้
ความหมายและขอบเขต
การเตรียมเพื่อการเผยแพร่ผลงานวิจัย หมายถึง
การเตรียมตัวหรือเตรียมความพร้อม เพื่อการเผยแพร่ผงงานวิจัย
ในที่นี้แบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ 1) การนำเสนอผลงานวิจัย/โปสเตอร์ในการประชุมเวทีวิชาการระดับนานาชาติ
2) การนำเสนอผลงานวิจัย/โปสเตอร์ในการประชุมเวทีวิชาการระดับชาติ 3)
การตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ
วิธีดำเนินการ
1.
การนำเสนอผลงานวิจัย/โปสเตอร์ในการประชุมเวทีวิชาการระดับนานาชาติ
1.1 ศึกษาข้อมูลและค้นหาเวทีในการนำเสนอ
1.2 คณะกรรมการบริหารพิจารณา
โดยอาจารย์แจ้งเรื่องการไปนำเสนอผลงานวิจัยต่อผู้รับผิดชอบการเผยแพร่งานวิจัยเพื่อเข้าสู่คณะกรรมการบริหารพิจารณา
1.3 สมัครไปนำเสนอผลงานวิจัย โดยส่งบทคัดย่องานวิจัยไปประกอบการพิจารณาด้วย หาข้อมูลได้จากกลุ่มภารกิจด้านวิจัย
การประชาสัมพันธ์ข้อมูลทางเอกสาร จดหมายราชการ หรือทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1.4 ติดตามผลการแจ้งตอบรับ ให้ไปนำเสนอผลงานวิจัย
และรายละเอียดข้อมูลประกอบการนำเสนอ เช่น วัน เวลาที่จะให้ไปนำเสนอ สถานที่
ภาษาที่ใช้ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อผู้รับผิดชอบ เป็นต้น
1.5 ทำเรื่องขออนุมัติ
การไปนำเสนอผลงานวิจัยตามระเบียบราชการ
เมื่อได้รับการตอบรับแล้วให้นำหลักฐานการตอบรับมาทำเรื่องขออนุมัติการเดินทางและงบประมาณค่าใช้จ่าย
ค่าลงทะเบียน
1.6 ลงทะเบียนสมัคร ไปนำเสนอผลงานวิจัย เมื่อได้รับการอนุมัติตามข้อ
1.3 แล้วจึงสมัครลงทะเบียนไปนำเสนอผลงานวิจัย
เนื่องจากต้องขออนุมัติการเบิกค่าใช้จ่ายตามระเบียบราชการก่อน
1.7 เตรียมต้นฉบับผลงานวิจัย หรือ Proceeding และสื่อ Power Point ประกอบ การนำเสนอ/โปสเตอร์
ซึ่งสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าระหว่างรอการตอบรับเพื่อให้มีเวลาดำเนินการและต้องตรวจสอบความถูกต้องให้มากที่สุดเพราะเมื่อส่งไปแล้วจะแก้ไขไม่ได้
โดยเฉพาะในเรื่องความถูกต้องของการสะกดคำ การใช้ format ตามรูปแบบที่ผู้จัดกำหนด ถ้าเป็นภาษาอังกฤษควรแปล โดยมืออาชีพ (มีผู้รับจ้างแปล
ประมาณหน้าละ 500 บาท หรืออาจคิดเป็นห้าพันคำ/ หกพันบาท
ควรจ้างแบบรวมค่าทำสื่อสไลด์ประกอบการนำเสนอพร้อมกัน)
1.8 เตรียมสื่อสไลด์/โปสเตอร์นำเสนอ
ควรเตรียมให้สอดคล้องกับเวทีที่สมัครไปนำเสนอ ขนาดห้องประชุม จำนวนผู้ฟัง ภาษา
และกำหนดเวลา บนสไลด์ควรมีโลโก้ของวิทยาลัยเพื่อให้เป็นมาตรฐาน
ตัวอักษรความมีขนาดที่ชัดเจน มีสีสันดึงดูดความสนใจและดูสบายตา มีตัวเลขสถิติ
รูปภาพ รูปกราฟ หรือแผนภูมิประกอบเพื่อให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ อาจให้ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของภาษาและเนื้อหาก่อนไปนำเสนอ
ซึ่งต้อมีเวลาและค่าใช้จ่าย
ให้ผู้เชี่ยวชาญด้วย จึงต้องวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ทำวิจัย
ถ้าเป็นวีดิทัศน์ควรตรวจสอบเสียงและบริหารความเสี่ยงในเรื่องระบบการเปิดที่เวทีนำเสนอ
และควรซ้อมวิธีการเปิดใช้ให้คล่องก่อนเดินทาง และ มีไฟล์สำรองแยกไปด้วย
ภาพประกอบควรให้มีชีวิตชีวาเป็นภาพเคลื่อนไหวจะดีกว่า แต่จะเปิดได้ยากกว่า
ส่วนรูปแบบของโปสเตอร์ที่เตรียมไปนำเสนอต้องมีขนาด (กว้างxยาวxสูง) และรูปแบบตรงตามที่ผู้จัดกำหนด
มินั้นจะติดแสดงไม่ได้และต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับติดตั้งไปให้พร้อมด้วย
รวมทั้งออกแบบให้สะดวกในการเดินทางโดยเฉพาะทางเครื่องบินและวัสดุไม่ยับง่าย
การออกแบบโปสเตอร์ควรให้มีสีสันดึงดูดความสนใจและดูสบายตา
ขนาดตัวอักษรเห็นชัดเจน เนื้อหาข้อมูลควรแยกข้อมูลเป็นกลุ่มหรือบล็อกให้ชัดเจน
และมีตัวเลขสถิติ รูปภาพ รูปกราฟ หรือแผนภูมิประกอบ เพื่อให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ
มีโลโก้ของวิทยาลัยและชื่อที่อยู่
ให้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ การออกแบบโปสเตอร์นี้อาจให้ช่างทำโปสเตอร์ช่วยออกแบบให้ได้
เจ้าของงานวิจัยต้องเตรียมข้อมูลเนื้อหาทั้งหมดใส่ไฟล์ไปให้ในรูปของ Power Point ควรตรวจสอบภาษาและการสะกดคำให้ถูกต้อง
และต้องพูดคุยกับช่างทำโปสเตอร์ให้เข้าใจ
ให้เวลาทำและนัดหมายกำหนดส่งมอบงานให้ชัดเจน และมีค่าใช้จ่าย (ประมาณตารางเมตรละ
400 บาทขึ้นไป)
ในการนำเสนอโดยโปสเตอร์ควรมีการจัดทำผลงานวิจัยเป็นแผ่นพับหรือรูปเล่มเล็กๆเพื่อแจกให้กับคณะกรรมการหรือผุ้เข้าชมด้วย
1.9 เตรียมฝึกซ้อมการพูด
โดยเฉพาะถ้าเป็นเวทีนานาชาติ แต่ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลมาก เพราะผู้ฟังจะเข้าใจความแตกต่างด้านเชื้อชาติภาษา
1.10
เตรียมความพร้อมส่วนบุคคล ในเรื่องการเดินทาง การจองที่พัก เสื้อผ้า การแต่งกาย
แผนที่ ยารักษาโรค ของใช้ส่วนตัว กล้องถ่ายรูป การนัดหมาย และอื่นๆ ตามความจำเป็น
2. การนำเสนอผลงานวิจัย/โปสเตอร์ในการประชุมเวทีวิชาการระดับชาติ
2.1
สมัครไปนำเสนอผลงานวิจัย โดยส่งบทคัดย่องานวิจัยไปประกอบการพิจารณาด้วย
หาข้อมูลได้จากกลุ่มภารกิจด้านวิจัย การประชาสัมพันธ์ข้อมูลทางเอกสาร จดหมายราชการ
หรือ ทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์
2.2 ติดตามผลการแจ้งตอบรับ ให้ไปนำเสนอผลงานวิจัย
และรายละเอียดข้อมูลประกอบการนำเสนอ เช่น วัน เวลาที่จะให้ไปนำเสนอ สถานที่
ภาษาที่ใช้ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อผู้รับผิดชอบ เป็นต้น
2.3 ทำเรื่องขออนุมัติ
การไปนำเสนอผลงานวิจัยตามระเบียบราชการ
เมื่อได้รับการตอบรับแล้วให้นำหลักฐานการตอบรับมาทำเรื่องขออนุมัติการเดินทางและงบประมาณค่าใช้จ่าย
ค่าลงทะเบียน
2.4 ลงทะเบียนสมัคร ไปนำเสนอผลงานวิจัย เมื่อได้รับการอนุมัติตามข้อ
1.3 แล้วจึงสมัครลงทะเบียนไปนำเสนอผลงานวิจัย
เนื่องจากต้องขออนุมัติการเบิกค่าใช้จ่ายตามระเบียบราชการก่อน
2.5 เตรียมต้นฉบับผลงานวิจัย หรือ Proceeding และสื่อ Power Point ประกอบ การนำเสนอ
ซึ่งสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าระหว่างรอการตอบรับเพื่อให้มีเวลาดำเนินการและ ต้องตรวจสอบความถูกต้องให้มากที่สุดเพราะเมื่อส่งไปแล้วจะแก้ไขไม่ได้
โดยเฉพาะในเรื่อง ความถูกต้องของการสะกดคำ
การใช้ format
ตามรูปแบบที่ผู้จัดกำหนด ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ควรแปลโดยมืออาชีพ
2.6 เตรียมสื่อสไลด์/โปสเตอร์ที่จะนำเสนอ ควรเตรียมให้สอดคล้องกับเวทีที่สมัครไปนำเสนอ
ขนาดห้องประชุม จำนวนผู้ฟัง ภาษา และกำหนดเวลา
บนสไลด์ควรมีโลโก้ของวิทยาลัยเพื่อให้เป็นมาตรฐาน ตัวอักษรความมีขนาดที่ชัดเจน
มีสีสันดึงดูดความสนใจและดูสบายตา มีตัวเลขสถิติ รูปภาพ รูปกราฟ
หรือแผนภูมิประกอบเพื่อให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ อาจให้ผู้เชี่ยวชาญ
ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของภาษาและเนื้อหาก่อนไปนำเสนอ
ซึ่งต้อมีเวลาและค่าใช้จ่าย
ให้ผู้เชี่ยวชาญด้วย จึงต้องวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ทำวิจัย
ถ้าเป็นวีดิทัศน์ควรตรวจสอบเสียงและบริหารความเสี่ยงในเรื่องระบบการเปิดที่เวทีนำเสนอ
และควรซ้อมวิธีการเปิดใช้ให้คล่องก่อนเดินทาง และ มีไฟล์สำรองแยกไปด้วย
ภาพประกอบควรให้มีชีวิตชีวาเป็นภาพเคลื่อนไหวจะดีกว่า แต่จะเปิดได้ยากกว่า
ส่วนรูปแบบของโปสเตอร์ที่เตรียมไปนำเสนอต้องมีขนาด
(กว้างxยาวxสูง) และรูปแบบตรงตามที่ผู้จัดกำหนด
มินั้นจะติดแสดงไม่ได้และต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับติดตั้งไปให้พร้อมด้วย
รวมทั้งออกแบบให้สะดวกในการเดินทางโดยเฉพาะทางเครื่องบินและวัสดุไม่ยับง่าย
การออกแบบโปสเตอร์ควรให้มีสีสันดึงดูดความสนใจและดูสบายตา ขนาดตัวอักษรเห็นชัดเจน
เนื้อหาข้อมูลควรแยกข้อมูลเป็นกลุ่มหรือบล็อกให้ชัดเจน และมีตัวเลขสถิติ รูปภาพ
รูปกราฟ หรือแผนภูมิประกอบ เพื่อให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ
มีโลโก้ของวิทยาลัยและชื่อที่อยู่
ให้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ การออกแบบโปสเตอร์นี้อาจให้ช่างทำโปสเตอร์ช่วยออกแบบให้ได้
เจ้าของงานวิจัยต้องเตรียมข้อมูลเนื้อหาทั้งหมดใส่ไฟล์ไปให้ในรูปของ Power Point ควรตรวจสอบภาษาและการสะกดคำให้ถูกต้อง
และต้องพูดคุยกับช่างทำโปสเตอร์ให้เข้าใจ
ให้เวลาทำและนัดหมายกำหนดส่งมอบงานให้ชัดเจน และมีค่าใช้จ่าย (ประมาณตารางเมตรละ
400 บาทขึ้นไป)
2.7 เตรียมฝึกซ้อมการพูด โดยเฉพาะถ้าเป็นเวทีนานาชาติ ถ้ามีผู้ชมโปสเตอร์สอบถามข้อมูล
2.8 เตรียมความพร้อมส่วนบุคคล ในเรื่องการเดินทาง การจองที่พัก
เสื้อผ้า การแต่งกาย แผนที่ ยารักษาโรค ของใช้ส่วนตัว
กล้องถ่ายรูป การนัดหมาย และอื่นๆ ตามความจำเป็น
3.
การตีพิมพ์บทความในวารสารวิชาการระดับชาติและนานาชาติ
3.1
วางแผนการเรื่องการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสาร
ควรวางแผนเรื่องการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยไว้ล่วงหน้าตั้งแต่การทำโครงร่างงานวิจัยขอทุนเนื่องจากต้องใช้งบประมาณในการลงตีพิมพ์
บางวารสารต้องสมัครเป็นสมาชิกติต่อกัน 2-3 ปี จึงจะได้รับการพิจารณารับตีพิมพ์
และต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวารสาร
3.2 ศึกษาข้อมูลของวารสาร
ควรศึกษาข้อมูลของวารสารที่สนใจว่าสอดคล้องกับปัญหาการวิจัยหรือไม่
และวารสารที่จะเลือกตีพิมพ์ควรเป็นวารสารที่ได้รับการรับรองในระดับชาติ
และมีค่าคะแนน Impact
facter สูงๆ หรือได้รับการรับรองจาก สมศ. ตามเกณฑ์ประเมินคุณภาพการศึกษา
เช่น วารสารพยาบาลของสมาคมพยาบาลฯ วารสารพยาบาลสาธารณสุข
วารสารพยาบาลศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วารสารพยาบาลศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น
(สามารถหาข้อมูลรายชื่อวารสารและรายละเอียดข้อกำหนดได้ที่กลุ่มงานวิจัยหรือสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซด์ของวารสารได้)
3.3
เตรียมต้นฉบับบทความวิจัยที่จะตีพิมพ์เผยแพร่
ควรกำหนดกรอบหรือโครงเรื่อง
(แผนที่การเขียนบทความ) ไว้ก่อน
ว่าต้องการหัวข้อเรื่องอะไรบ้างและขอบเขตของเนื้อหาแต่ละหัวข้อเรื่อง
ความยาวของแต่ละหัวข้อมากน้อยเท่าไร รวมทั้งหมดไม่เกินกี่หน้า (โดยประมาณ 15-25
หน้า) ตามที่บรรณาธิการวารสารกำหนดแบบฟอร์มไว้
ถ้าไม่ดำเนินการตามนั้นอาจจะไม่ได้รับการพิจารณารับตีพิมพ์
มีข้อเสนอแนะจากผู้มีประสบการณ์ว่าถ้าได้อ่านบทความวิจัยในวารสารที่จะลงตีพิมพ์เป็นตัวอย่างก่อนจะช่วยให้เกิดความเข้าใจและเตรียมต้นฉบับได้ง่ายขึ้น
จากนั้นจึงลงมือเขียนบทความตามกรอบหัวข้อและความยาวที่วางแผนไว้
โดยเขียนขึ้นใหม่ให้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันทั้งเรื่อง
และเน้นความสำคัญที่ต้องการเสนอให้ผู้อ่านทราบ
ไม่ใช่การย่อวิจัยเล่มใหญ่มาทุกหัวข้อแบบสั้นๆ การอ้างอิงต้องให้ถูกต้องตามระบบที่วารสารกำหนด
ควรเก็บเอกสารต้นฉบับและเอกสารอ้างอิงไว้ก่อน
โดยคั่นหน้าไว้ หรือใส่ดัชนีไว้ให้ชัดเจน ถ้ามีการแก้ไขจะได้ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
การพิมพ์แก้ไขควรบันทึกในไฟล์ใหม่ ไม่ควรบันทึกซ้อนไฟล์เดิม เพราะบางครั้งอาจต้องแก้ไขกลับมาใช้แบบเดิม
3.4 ตรวจสอบความถูกต้อง
เชื่อมโยงของเนื้อหา การสะกดคำ ระเบียบวิธีการวิจัย การเขียนอ้างอิง และบรรณานุกรม
ตามระบบที่วารสารกำหนดแล้วแก้ไขให้ถูกต้อง
3.5
ส่งบทความไปให้บรรณาธิการวารสาร พิจารณารับตีพิมพ์
3.6 ติดตามผล ควรติดตามผลกับบรรณาธิการเป็นระยะๆ ถ้ามีการแก้ไขบรรณาธิการจะส่งต้นฉบับกลับมา
ผู้เขียนควรทำความเข้าใจและรีบดำเนินการแก้ไข
เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้จะขาดความต่อเนื่องและหลงลืมประเด็นได้ ถ้ามีข้อสงสัยควรติดต่อกลับไปถามหรือเจรจาต่อรองกับบรรณาธิการให้เข้าใจตรงกัน
3.7 แก้ไขและส่งต้นฉบับบทความกลับ
ไปให้บรรณาธิการเพื่อการตีพิมพ์ใหม่ แล้วติดตามเป็นระยะๆ เช่นเดียวกับข้อ
3.4
ข้อสำคัญคือต้องจดจ่อไม่ย่อท้อให้กำลังใจตนเองจนกว่าจะได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
สรุปความคิดเห็นจากเวทีประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ ดังนี้
1.
จากการจัดการความรู้เรื่องการเผยแพร่ผลงานวิจัยและการนำไปปฏิบัติจริง
ผู้ที่มีประสบการณ์ยินดีเล่าสู่กันฟัง
เมื่อมีผู้นำไปปฏิบัติแล้วจัดให้มีการนำประสบการณ์กลับมาเล่าในเวทีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทำให้ได้ข้อมูลความรู้และข้อเสนอแนะเพิ่มขึ้น
สรุปเป็นแนวปฏิบัติที่ดีเรื่องการเผยแพร่ผลงานวิจัย
2.
วิทยาลัยมีระบบสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัยที่ดีจากผู้บริหารและกลุ่มภารกิจ ด้านการวิจัย ทั้งในด้านงบประมาณ
ข้อมูลความรู้ ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงาน
มีการให้รางวัลสนับสนุนเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้วิจัยเผยแพร่ผลงานวิจัยต่อไป
3. ผู้ทำวิจัยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินการให้สำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น