วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แนวปฏิบัติที่ดีจากถอดบทเรียนจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง การเผยแพร่ผลงานวิจัย


วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี  สระบุรี
แนวปฏิบัติที่ดีจากถอดบทเรียนจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
เรื่อง การเผยแพร่ผลงานวิจัย
 
การตีพิมพ์บทความในวารสารวิชาการระดับชาติและนานาชาติ
          1. วางแผนการเรื่องการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสาร
                   ควรวางแผนเรื่องการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยไว้ล่วงหน้าตั้งแต่การทำโครงร่างงานวิจัยขอทุนเนื่องจากต้องใช้งบประมาณในการลงตีพิมพ์ บางวารสารต้องสมัครเป็นสมาชิกติต่อกัน 2-3 ปี จึงจะได้รับการพิจารณารับตีพิมพ์ และต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวารสาร
          2.  ศึกษาข้อมูลของวารสาร 
                   ควรศึกษาข้อมูลของวารสารที่สนใจว่าสอดคล้องกับปัญหาการวิจัยหรือไม่  และวารสารที่จะเลือกตีพิมพ์ควรเป็นวารสารที่ได้รับการรับรองในระดับชาติ และมีค่าคะแนน Impact facter สูงๆ หรือได้รับการรับรองจาก สมศ. ตามเกณฑ์ประเมินคุณภาพการศึกษา เช่น วารสารพยาบาลของสมาคมพยาบาลฯ วารสารพยาบาลสาธารณสุข วารสารพยาบาลศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วารสารพยาบาลศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น (สามารถหาข้อมูลรายชื่อวารสารและรายละเอียดข้อกำหนดได้ที่กลุ่มงานวิจัยหรือสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซด์ของวารสารได้)
          3. เตรียมต้นฉบับบทความวิจัยที่จะตีพิมพ์เผยแพร่
                   ควรกำหนดกรอบหรือโครงเรื่อง (แผนที่การเขียนบทความ) ไว้ก่อนว่าต้องการหัวข้อเรื่องอะไรบ้างและขอบเขตของเนื้อหาแต่ละหัวข้อเรื่อง ความยาวของแต่ละหัวข้อมากน้อยเท่าไร รวมทั้งหมดไม่เกินกี่หน้า (โดยประมาณ 15-25 หน้า) ตามที่บรรณาธิการวารสารกำหนดแบบฟอร์มไว้ ถ้าไม่ดำเนินการตามนั้นอาจจะไม่ได้รับการพิจารณารับตีพิมพ์ มีข้อเสนอแนะจากผู้มีประสบการณ์ว่าถ้าได้อ่านบทความวิจัยในวารสารที่จะลงตีพิมพ์เป็นตัวอย่างก่อนจะช่วยให้เกิดความเข้าใจและเตรียมต้นฉบับได้ง่ายขึ้น
                   จากนั้นจึงลงมือเขียนบทความตามกรอบหัวข้อและความยาวที่วางแผนไว้ โดยเขียนขึ้นใหม่ให้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันทั้งเรื่อง และเน้นความสำคัญที่ต้องการเสนอให้ผู้อ่านทราบ ไม่ใช่การย่อวิจัยเล่มใหญ่มาทุกหัวข้อแบบสั้นๆ การอ้างอิงต้องให้ถูกต้องตามระบบที่วารสารกำหนด ควรเก็บเอกสารต้นฉบับและเอกสารอ้างอิงไว้ก่อน โดยคั่นหน้าไว้ หรือใส่ดัชนีไว้ให้ชัดเจน ถ้ามีการแก้ไขจะได้ทำได้ง่ายและรวดเร็ว การพิมพ์แก้ไขควรบันทึกในไฟล์ใหม่ ไม่ควรบันทึกซ้อนไฟล์เดิม เพราะบางครั้งอาจต้องแก้ไขกลับมาใช้แบบเดิม
          4. ตรวจสอบความถูกต้อง เชื่อมโยงของเนื้อหา การสะกดคำ ระเบียบวิธีการวิจัย การเขียนอ้างอิง และบรรณานุกรม ตามระบบที่วารสารกำหนดแล้วแก้ไขให้ถูกต้อง
          5. ส่งบทความไปให้บรรณาธิการวารสาร พิจารณารับตีพิมพ์
          6. ติดตามผล  ควรติดตามผลกับบรรณาธิการเป็นระยะๆ ถ้ามีการแก้ไขบรรณาธิการจะส่งต้นฉบับกลับมา ผู้เขียนควรทำความเข้าใจและรีบดำเนินการแก้ไข เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้จะขาดความต่อเนื่องและหลงลืมประเด็นได้ ถ้ามีข้อสงสัยควรติดต่อกลับไปถามหรือเจรจาต่อรองกับบรรณาธิการให้เข้าใจตรงกัน 
          7.  แก้ไขและส่งต้นฉบับบทความกลับ ไปให้บรรณาธิการเพื่อการตีพิมพ์ใหม่แล้วติดตามเป็นระยะๆ เช่นเดียวกับข้อ 3.4 ข้อสำคัญคือต้องจดจ่อไม่ย่อท้อให้กำลังใจตนเองจนกว่าจะได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น