วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรื่องเล่าบำบัด: มนุษย์ศาสตร์การศึกษาเพื่อการพัฒนามนุษย์


เรื่องเล่าบำบัด: มนุษย์ศาสตร์การศึกษาเพื่อการพัฒนามนุษย์

 

                                                                                          สุดา  เดชพิทักษ์ศิริกุล

บทนำ

คนไทยในยุคปัจจุบัน มีวิถีชีวิตแบบสมัยใหม่ภายใต้สังคมที่ผสมผสานระหว่างวิถีเก่ากับวิถีใหม่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่กำลังเสื่อมโทรมลง   และก้าวเข้าสู่ภาวะขาดความสมดุลระหว่างคน  สังคม  และธรรมชาติ  เกิดการแย่งชิงทรัพยากร   ต่างละเลยภูมิปัญญาการดำเนินชีวิตแบบวิถีไทยที่เชื่อมวิถีชีวิตของคน ครอบครัว ชุมชนอันสัมพันธ์กับ ความเชื่อ และสภาพแวดล้อมธรรมชาติอย่างเกื้อกูลสมดุลกัน  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลต่อการบริการทางการแพทย์เช่นกัน  

ปัจจุบันโลกส่วนใหญ่ได้หันมานิยมใช้วิธีการบำบัดรักษาที่ถือว่าเป็นแบบอารยธรรมตะวันตกซึ่งเรามักเรียกกันว่าการแพทย์สมัยใหม่    ความจริงการแพทย์สมัยใหม่ก็วิวัฒนาการมาจากการแพทย์สมัยเก่านั่นเอง  ซึ่งลักษณะสำคัญของการแพทย์สมัยใหม่ คือสนับสนุนแนวคิดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่สำคัญ  พร้อมด้วยลักษณะที่เรียกว่าความชำนาญพิเศษ  การแพทย์แบบโบราณของไทย  คล้ายกับการแพทย์แบบตะวันออก ซึ่งมีลักษณะร่วมกันหลายอย่าง ลักษณะที่เด่นอย่างหนึ่ง คือ วัฒนธรรมทางด้านจิตใจซึ่งยังมีอิทธิพลเหลืออยู่  สังเกตได้ว่า เมื่อพูดถึงการแพทย์ในประเทศไทยในวิถีการแพทย์สมัยใหม่  ก็ยังคงแฝงด้วยความคิดบางประการ  ที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมไทย  เช่นเรื่องความกตัญญูกับความรู้สึกมีบุญคุณ  ดังปรากฏการณ์ของการให้ความยกย่องกับแพทย์ พยาบาลว่าเป็นดั่งปูชนียบุคคล  เพราะเป็นคนที่มีพระคุณแก่ชีวิตของผู้คน  เป็นผู้ที่ได้ช่วยเหลือชีวิตของเพื่อนมนุษย์ หรือเป็นคนมีคุณค่าของสังคมเป็นต้น    การมองในแง่ของความมีพระคุณกับในแง่ความกตัญญูกตเวทีนั้น  จึงเกิดเป็นความเป็นความสัมพันธ์ในเชิงคุณธรรมขึ้น ฝ่ายแพทย์ พยาบาลเป็นผู้ที่มีเมตตากรุณาได้ช่วยเหลือ  ส่วนทางฝ่ายคนไข้ก็เป็นผู้มีความกตัญญูระลึกถึงพระคุณนั้นทำให้มีความรู้สึกในเชิงน้ำใจต่อกัน  แต่สิ่งซึ่งเป็นปัญหาในปัจจุบันนี้ คือการแพทย์สมัยใหม่ของไทยนั้น  นอกจากจะมุ่งเน้นนำความรู้การแพทย์แบบตะวันตกมาใช้แล้ววัฒนธรรมก็ถูกกลืนไปตามแบบตะวันตกด้วย เช่น การให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์แบบเสมอภาค  ที่ไม่มีเจ้านายเหนือลูกน้อง หรือข้าราชการเหนือชาวบ้าน ผู้น้อยให้เกียรติผู้ใหญ่ ฯ ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยจะอยู่ภายใต้ระบบ ซึ่งนับว่าเป็นจุดแข็งที่จะปรับสมดุลความสัมพันธ์เชิงอำนาจในสังคมไทย ในอีกมุมมองหนึ่ง กระแสวัฒนธรรมตะวันตกเน้นการแพทย์เชิงธุรกิจการดูแลที่ดีขึ้นอยู่กับการให้มูลค่าของบริการที่มากขึ้นหากแนวคิดนี้มีพลังอำนาจมากขึ้น ความ-รู้สึกในคุณค่าทางจิตใจก็จะลดน้อยลง  นับว่าเป็นจุดอ่อนที่เป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และผู้ป่วยในปัจจุบัน   

ดังนั้นถ้ากลับมาพิจารณาด้านประโยชน์ของความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลหรือมิติเชิงคุณค่าทางจิตใจแล้ว  แพทย์และพยาบาลยังได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมเดิมของไทย คือ ความรู้สึกเชื่อถือ  และความเคารพนับถือไว้เนื้อเชื่อใจที่ยังคงหยั่งรากลึกในจิตใจของคนไทยทั่วไป   จึงอาจกล่าวได้ว่าการศึกษาวิธีการแพทย์ตะวันตกเป็นสิ่งที่ดีขณะเดียวกันการเลือกใช้ประโยชน์ การปรับวิธีคิด และการปฏิบัติในบริบทของสังคมไทยก็ควรนำมาบูรณาการโดยเฉพาะการให้ความสำคัญในมิติความสัมพันธ์ของมนุษย์ ดังที่นิธิ เอียวศีรวงษ์ กล่าวว่า

 

... รู้สึกว่าประวัติการแพทย์และสาธารณสุขมีแต่เรื่องแพทย์และเข็มฉีดยา  แต่ไม่มีการศึกษาว่าแพทย์มีผลกระทบต่อคนอย่างไร...  ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของคนเป็นสิ่งที่ประวัติศาสตร์การแพทย์ไม่ค่อยสนใจเลยแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ก็ยังไม่ค่อยสนใจศึกษากัน...

                                                                   (นิธิ เอียวศีรวงษ์, 2545: 20-21)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น