วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี
การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก
(Problem-Based
Learning)
อ.จีราภรณ์ ชื่นฉ่ำ
ความเป็นมาและความสำคัญ
กระบวนการจัดการศึกษาพยาบาลศาสตร์ ตามแนวคิดการปฏิรูปการศึกษา ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่1) พ.ศ.2545 ตามข้อความในมาตราที่ 14
ว่าด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ทำให้ทุกฝ่ายต้องหันกลับมาทบทวนและทำความเข้าใจและมุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอนโดยมุ่งเน้นนักศึกษาเป็นศูนย์กลางมากขึ้น
ทั้งนี้เพื่อพัฒนานักศึกษาให้มีทักษะที่จำเป็นสอดคล้องกับลักษณะของคนไทยยุคใหม่ในศตวรรษที่
21 ได้แก่
ทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ทักษะการร่วมมือร่วมพลัง ทักษะการสื่อสาร ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ (พิมพันธ์ เตชะคุปต์, 2556)
ปัจจุบันสถาบันการศึกษาได้พยายามส่งเสริมให้บุคลากรใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย
รวมถึงส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based
Learning)
เพราะการสอนด้วยวิธีการดังกล่าวถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะทางปัญญา
ส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์และการตัดสินใจ
และพัฒนาผู้เรียนให้คนที่รู้จักเรียนรู้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการทำงานเป็นทีมและทักษะการติดต่อสื่อสาร หรือผลการเรียนรู้ด้านอื่นๆ
ตามที่กำหนดไว้ในกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก
ความหมาย
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก
เป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนที่เริ่มต้นจากผู้สอนเสนอปัญหาที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้
ท้าทายให้คิด และสอดคล้องกับสถานการณ์จริง
เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการในการหาความรู้และนำความรู้จากประสบการณ์เดิมมาสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เชื่อมโยงกันเพื่อใช้ในการแก้ปัญหา
โดยให้ผู้เรียนรู้จักทำงานร่วมกันเป็นทีม มุ่งฝึกให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์และพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา
รู้จักตัดสินใจ และสามารถนำเสนอผลการเรียนรู้ของตนเองได้
เป็นวิธีการในการส่งเสริมผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผู้เรียนจะต้องเรียนแบบนำตนเอง
วางแผนในการเรียน ผู้สอนเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก และคอยชี้แนะ
การเรียนรู้ที่ได้ จากการฝึกอบรมหลักสูตร Problem-Based Learning, Curriculum Planning, and Evaluation จัดโดย McMaster
University ประเทศแคนาดา
ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในการจัดการเรียนการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นหลัก
๑. เริ่มต้นจากปัญหาที่ผู้เรียนสนใจที่จะค้นหา
๒. เป็นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางโดยเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง
(Self-Directed
Learning) เรียนรู้ที่จะเรียนรู้ (Leaning to Learn)
๓. สถานการณ์ปัญหาเป็นตัวขับเคลื่อนการเรียนรู้
๔. สถานการณ์ปัญหามีแนวคิดเฉพาะอยู่ด้วย
เป้าหมายของการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก
๑. สร้างองค์ความรู้ที่กว้างขวางและยืดหยุ่น
๒. พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
๓. พัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเองและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
๔. ทำให้เกิดเกิดการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ
๕. สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้
ข้อดีและข้อจำกัดของการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก
๑.นักเรียนและผู้สอนมีส่วนร่วมในกิจกรรมร่วมกัน
๒.
ผู้เรียนคงความรู้ได้นานและมีทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ดีกว่า
๓. มีศักยภาพและทักษะในคลินิกที่ดี
อาจทำให้ผู้เรียนเกิดความเครียดได้ง่าย
๔. ใช้ทรัพยากรมาก
๕. ผู้สอนต้องเตรียมตัวอย่างดี
ขั้นตอนของกระบวนการการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก
ขั้นตอนที่
๑ เสนอสถานการณ์ปัญหาและระบุคำศัพท์หรือแนวคิด
ขั้นตอนที่
๒ ค้นหา แลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ที่มีอยู่
ขั้นตอนที่
๓ สร้างสมมุติฐาน
ขั้นตอนที่
๔ ระบุประเด็นและแหล่งข้อมูล
ขั้นตอนที่
๕ รวบรวมข้อมูลและศึกษาค้นคว้าอย่างอิสระ
ขั้นตอนที่
๖ อภิปรายความรู้และถกประเด็นปัญหาอย่างจริงจัง
มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ป่วยจำลอง หรือเอกสารรายละเอียด
ขั้นตอนที่
๗ ประยุกต์ใช้องค์ความรู้สู่ปัญหาอย่างเป็นไปได้
ขั้นตอนที่
๘ สะท้อนคิดเนื้อหาและกระบวนการในการเรียนรู้
การตั้งคำถามของผู้สอน
การตั้งคำถามในการจัดการเรียนการสอนแบบ PBL มี ๓ ระดับ
คือ
๑. information คือ การถามนำไปสู่ประเด็นหลัก
๒. Application คือ การถามเพื่อให้นักศึกษานำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ
๓. Problem-Solving คือ
การถามเพื่อให้นักศึกษาเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
บทบาทของผู้สอน
๑. ปฐมนิเทศกระบวนการเรียนแบบPBL ความคาดหวังของวิชาที่เรียนและวิธีประเมินผล
๒. สร้างบรรยากาศกาเรียนรู้
๓. ทำให้ความต้องการเรียนรู้ของผู้เรียนมีความชัดเจน
๔. มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้
๕. กระตุ้นการมีเหตุผลโดยใช้คำถาม
๖. ประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้
๗. ให้ข้อเสนอแนะย้อนกลับ
บทบาทของผู้เรียนและผู้สอนตามขั้นตอนการเรียน
ขั้นตอน
|
บทบาทผู้สอน
|
บทบาทผู้เรียน
|
ขั้นเตรียม
|
-เตรียมผู้เรียนเกี่ยวกับวิธีการเรียนและวัตถุประสงค์การเรียนรู้แบบ
PBL
-ชี้แจงบทบาทผู้เรียนและผู้สอน
-ชี้แจงวิธีการวัดและประเมินผล
|
-แบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม
-รับฟัง
ซักถามข้อสงสัยและแสดงความคิดเห็น
-กำหนดบทบาทหน้าที่
ประกอบด้วย ประธาน เลขานุการ ผู้จับเวลา ผู้นำเสนอ
-กำหนดข้อตกลงร่วมกันของกลุ่มและบันทึกข้อตกลง
|
ขั้นการเรียนรู้
|
||
ขั้นที่ 1
เสนอโจทย์ปัญหา (Encounter the
person through situation/Scenario)
|
-เสนอโจทย์ปัญหา
-อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
-ถามกระตุ้นการเรียนรู้
-กระตุ้นให้ผู้เรียนสะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
-ศึกษาโจทย์ปัญหา
-ทำความเข้าใจคำศัพท์และแนวคิด
-สะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
ขั้นที่ 2
ระบุประเด็น, ปัญหา (Identify issues,
challenges, problem assets & strengths)
|
-ถามกระตุ้นการเรียนรู้
-เพิ่มเติมข้อมูลจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ปัญหาจากโจทย์โดยใช้คำถาม
-ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน
-อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
-กระตุ้นให้ผู้เรียนสะท้อนคิดเกี่ยวกับ *กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
-ระบุปัญหาของโจทย์/สถานการณ์
-ระบุข้อมูลที่ได้จากปัญหา
-สะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
ขั้นที่ 3
ระบุข้อความ/ความรู้ที่มีอยู่ (Explore pre-existing information and currents
knowledge base)
|
-ถามกระตุ้นการเรียนรู้
-กระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่ม
-ช่วยเชื่อมโยงความรู้เดิมของผู้เรียน
-ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน
-อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
-กระตุ้นให้ผู้เรียนสะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
-แบ่งปันความรู้เดิม
-แสดงบทบาทที่ได้รับมอบหมายตามกระบวนการกลุ่ม
-สะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
ขั้นตอน
|
บทบาทผู้สอน
|
บทบาทผู้เรียน
|
ขั้นที่ 4
ตั้งสมมุติฐาน/ กลไกของปัญหา (Generate hypothesis/issue & their possible biopsychosocial
mechanisms)
|
-ถามกระตุ้นการเรียนรู้
-กระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่ม
-ช่วยเชื่อมโยงสมมุติฐานของผู้เรียนกับโจทย์/ประเด็นโดยใช้คำถาม
-ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน
-อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
-กระตุ้นให้ผู้เรียนสะท้อนคิดเกี่ยวกับ *กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
-วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
-ตั้งสมมุติฐานที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับโจทย์/สถานการณ์
เช่น Concept mapping
-สะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
ขั้นที่ 5
ระบุความรู้ที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมและจัดลำดับความสำคัญ (Identify information gaps, Identify
prioritize learning issues)
|
-ถามกระตุ้นการเรียนรู้
-กระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่ม
-ช่วยเชื่อมโยงความรู้ของผู้เรียน
-ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน
-อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
-แนะนำแหล่งเรียนรู้
(ผู้เชี่ยวชาญเอกสาร ตำรา Website ฐานข้อมูล)
-กระตุ้นให้ผู้เรียนสะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
-จัดลำดับความสำคัญของสมมุติฐาน
-กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้
-กำหนดวิธีการเรียนรู้และแหล่งที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติม
-วางแผนการเรียนรู้ของกลุ่มและตนเอง
-มอบหมายผู้รับผิดชอบตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้
-สะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
ขั้นที่ 6
ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Research learning
issues via self study)
|
-อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
เช่น ประสานผู้เชี่ยวชาญ ห้องสมุด ฯลฯ
|
-ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้
-สรุปผลการเรียนรู้
-วางแผนการนำเสนอผลการเรียนรู้
|
ขั้นที่ 7
ทดสอบสมมุติฐานและประยุกต์เชื่อมโยงความรู้ใหม่ (Evaluate initial hypothesis/issues and apply new
knowledge)
|
-เชื่อมโยงความรู้ที่เป็นแนวคิดหลักที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้โดยใช้คำถาม
(ไม่ใช่การบรรยาย)
-กระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่ม
-ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน
-อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
-กระตุ้นให้ผู้เรียนสะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
-นำเสนอผลการเรียนรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าด้วยวิธีการที่หลากหลาย
เช่น บทบาทสมมุติฐาน แผนผังความคิดรวบยอด ฯลฯ
-เชื่อมโยงความรู้ที่เป็นแนวคิดหลักที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้
-ประยุกต์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าเพื่อทดสอบสมมุติฐาน
|
ขั้นตอน
|
บทบาทผู้สอน
|
บทบาทผู้เรียน
|
|
|
-สรุปผลการเรียนรู้ที่เป็นความรู้ใหม่
-สะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
|
ขั้นที่ 8
ประเมินและสะท้อนคิดการเรียนรู้ของกลุ่ม/ บุคคล (Assess and reflect on group/ individual learning)
|
-ถามกระตุ้นความคิดเห็นเกี่ยวกับ
-กระบวนการกลุ่ม
-กระบวนการเรียนรู้
-ผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่กำหนด
-ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน
-อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
|
-สะท้อนคิดเกี่ยวกับ
*กระบวนการกลุ่ม
*กระบวนการเรียนรู้
*ผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่กำหนด
|
บทบาทของผู้เรียนโดยสรุป
1. เข้ากลุ่มย่อย
คัดเลือกประธาน เลขานุการ และมอบหมายสมาชิกแต่ละคนให้มีบทบาทหน้าที่ตามความสมัครใจ
2. กำหนดกติกาของกลุ่ม
3. วางแผนการเรียนรู้รับผิดชอบและบริหารเวลาให้เหมาะสม
4. อภิปรายแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็น
5. เสนอสิ่งที่ตนเองได้เรียนรู้
6. เชื่อมโยงความรู้เดิม
7. ประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
8. ค้นหาวิธีการแก้ปัญหาและการเรียนรู้
9. เสนอแนวทางการแก้ปัญหา
10. เคารพผู้อื่น
ยอมรับฟังความคิดเห็น
11. ประเมินการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
12. เป็นสมาชิกกลุ่มที่ดี
จากการฝึกอบรมหลักสูตร Problem-Based
Learning, Curriculum Planning, and
Evaluation จัดโดย McMaster
University ประเทศแคนาดา
การนำความรู้ที่ได้รับในครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนวิชาการพยาบาลครอบครัวและชุมชน
๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นการบูรณาการเนื้อหาการเรียนการสอนระหว่างบท ดังนี้
บทที่
หัวข้อ
|
อาจารย์ผู้สอน
|
ต้องรู้
|
ควรรู้
|
น่ารู้
|
ผลการเรียนรู้
(TQF, SAPE)
|
วิธีสอน
|
ชิ้นงาน
(ชื่อชิ้นงาน จำนวน )
|
งานกลุ่ม/งานเดี่ยว
|
สัปดาห์ที่ส่ง
|
การประเมินผล
|
บทที่
1 แนวคิดและหลักการพยาบาลครอบครัวและชุมชนที่มีภาวะเสี่ยงส่งผลต่อปัญหาสุขภาพของครอบครัว
1.1
การประเมินปัญหาสุขภาพชุมชน
1.2
แนวทางการพยาบาลชุมชนแบบองค์รวม
1.3
การพัฒนาสุขภาพชุมชนโดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
|
อ.ประจำกลุ่ม
อ.ประไพ
อ.จีราภรณ์
อ.เกศแก้ว
อ.ภูวสิทธิ์
อ.ผุสดี
|
ü
|
ü
|
ü
|
1.4 1.5 ๑.๙ 2.2 2.3
3.2 3.3 3.4
3.6 3.7 ๓.๘ 4.2
๔.๕ 5.1
|
PBL
|
- รายงานหลักฐานการเรียนรู้
|
งานกลุ่ม
|
๖
|
- MCQ
- MEQ
- แบบประเมินรายงานหลักฐานการเรียนรู้
- แบบประเมินกระบวนการ PBL
|
บทที่ 6
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน
6.2 การเลือกใช้ทรัพยากร
เทคโนโลยีผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาสุขภาพ
|
ü
|
|
|
|||||||
บทที่
๗ ใช้กระบวนการพยาบาลในการวินิจฉัยและการแก้ไขปัญหาสุขภาพครอบครัวและชุมชน
เลือกใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ทรัพยากร และเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยยึดหลักจริยธรรมและสิทธิมนุษยชน
มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน เพื่อให้สามารถดูแลตนเองได้
7.1 การศึกษาสภาพชุมชนแบบองค์รวมและการใช้เครื่องมือ 7
ชิ้น
7.2 การประเมินภาวะสุขภาพชุมชน
7.3 ข้อบ่งชี้ลักษณะชุมชนที่มีปัญหาสุขภาพ
7.4 การลำดับความสำคัญของปัญหาสุขภาพชุมชน
7.5 การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
7.6 การวางแผนงานและการเขียนโครงการ
7.7 การจัดการและแก้ไขปัญหาสุขภาพชุมชนโดยใช้หลักการพัฒนาชุมชน
7.8 การประเมินแผนงาน/โครงการ
|
ü
ü
ü
ü
ü
ü
|
ü
ü
|
|
|||||||
|
โดยได้จัดการเรียนการสอนเป็น 2 โจทย์ ได้แก่ โจทย์ 1
เนื้อหา
1.1 การประเมินปัญหาสุขภาพชุมชน
7.1 การศึกษาสภาพชุมชนแบบองค์รวม และการใช้เครื่องมือ ๗ ชิ้น
7.2 การประเมินภาวะสุขภาพชุมชน
7.3 ข้อบ่งชี้ลักษณะชุมชนที่มีปัญหาสุขภาพ
7.4
การลำดับความสำคัญของปัญหาสุขภาพชุมชน
วัตถุประสงค์
1.
ระบุข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาสภาพชุมชนแบบองค์รวมได้
2.
ทบทวนวิธีการเก็บข้อมูล เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือทางมนุษยวิทยา
3.
วิเคราะห์ข้อมูลประชากรและดัชนีอนามัยได้
4.
เลือกวิธีการนำเสนอข้อมูลได้เหมาะสม
5.
ระบุข้อบ่งชี้ลักษณะชุมชนที่มีปัญหาสุขภาพได้
6.
ระบุปัญหาสุขภาพชุมชนได้
7.
จัดลำดับความสำคัญของปัญหาสุขภาพชุมชนได้
8.
อธิบายแนวคิดระบบสุขภาพระดับอำเภอได้
สถานการณ์โจทย์ 1
พยาบาลสวย
ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการประเมินสภาวะสุขภาพชุมชนจุฑาเทพ พบปัญหาหลายประการ คือ
ประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคไข้เลือกออก
ความดันโลหิตสูง ภาวะโภชนาการเกิน ปวดเข่า
โครงสร้างประชากรส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงาน ซึ่งพยาบาลสวยไม่แน่ใจว่า
อะไรเป็นปัญหาที่แท้จริงของชุมชนและควรจัดลำดับการดำเนินการแก้ไขปัญหาใดก่อนหลังตามแนวคิดระบบสุขภาพระดับอำเภอ
(DHS)
โจทย์
2
เนื้อหา
1.3 การพัฒนาสุขภาพชุมชนโดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
6.2 การเลือกใช้ทรัพยากร
เทคโนโลยีและผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาสุขภาพ
7.5
การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
8.1
การวางแผนงาน
8.2
การเขียนโครงการ
8.4
การจัดการแก้ปัญหาชุมชนโดยใช้หลักการพัฒนาชุมชน
8.5 การประเมินแผนงาน/โครงการ
วัตถุประสงค์
1.
อธิบายหลักการพัฒนาสุขภาพชุมชนโดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
2.
เลือกใช้ทรัพยากร
เทคโนโลยีและผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาสุขภาพได้
3.
เขียนโยงใยวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาได้
4.
เขียนแผนงานโครงการได้ถูกต้องตามหลักการ
5.
ระบุวิธีการ ประเมินแผนงาน/โครงการ
สถานการณ์โจทย์
2
ปัญหาโรคไข้เลือดออก ได้รับการจัดลำดับความสำคัญให้แก้ไขเป็นอันดับแรก
พยาบาลสวย ต้องวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาไข้เลือดออกในชุมชน
ต้องแก้ไขปัญหาให้ตรงสาเหตุ
รวมทั้งจะต้องเขียนโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนอย่างมีส่วนร่วม
โดยใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น
หลักการพัฒนาสุขภาพชุมชนโดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและประเมินผลการดำเนินการตามผังกำกับงาน
สรุป กระบวนการเรียนการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นหลัก
ปะกอบด้วยโจทย์สถานการณ์กระตุ้นการคิด กระบวนการทำงานกลุ่มในการแก้ปัญหา การสืบค้นหาความรู้และการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง กระบวนการในการแก้ปัญหา
ซึ่งต้องได้ข้อมูลในสถานการณ์และใช้ความรู้ในการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น